"ดอกทานตะวัน"
มีคนมักจะถามว่า.. ทำไมถึงชอบ "ดอกทานตะวัน" ???
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ครั้งแรกที่ชอบมันคือเมื่อไหร่
อาจจะชอบตั้งแต่เด็ก หรือเพิ่งมาชอบเมื่อไม่นานมานี้
แต่ที่รู้ก็คือ.. เริ่มชอบมันจาก "ความหมาย" ของมัน มากกว่ารูปลักษณ์ที่มองเห็น
เค้าว่ากันว่า มันคือสัญลักษณ์ของ ความเชื่อมั่น ความมั่นคง รักเดียวใจเดียว
และถ้าใครได้รับดอกทานตะวัน เหมือนกับคนให้ต้องการจะสื่อว่า
...แม้ว่าเธอจะเย่อหยิ่งเพียงไร แต่สักวันฉันจะชนะใจเธอ... หรือไม่ก็
...รักของฉันมั่นคงต่อเธอ ดุจทานตะวันที่ไม่เคยหันมองผู้ใดนอกจากดวงอาทิตย์...
มันช่างเป็นความหมายที่สวยหรู และดูดี
แต่อีกนัยหนึ่ง.. ฉันกลับคิดว่า มันคือการกระทำที่โง่งมงายรึเปล่า?
ทั้งๆ ที่รู้ว่า ดวงอาทิตย์มอบความอบอุ่นให้กับทุกๆ คนบนโลก
แต่ดอกทานตะวันก็ยังคงมองแค่ดวงอาทิตย์อยู่เท่านั้น
ไม่ได้สนใจผึ้ง แมลง หรือ แม้แต่เจ้าไส้เดือนตัวน้อยที่มันคอยดูแล
ทั้งช่วยพรวนดิน ผสมเกสร ให้มันได้เติบโตยืนมองดวงอาทิตย์อยู่ทุกวันด้วยซ้ำ
บางที... ถ้ามันเลิกมองแต่ดวงอาทิตย์
มันอาจจะเห็นเจ้าหนอนตัวน้อยที่หลบอยู่ใต้ใบของมัน
ที่มันอาจกำลังแอบหลงรักดอกทานตะวันอยู่ก็ได้ :)
แต่ถึงอย่างนั้น... ดอกทานตะวันก็ยังคงมองแต่ดวงอาทิตย์
และฉันยังคงรอคนๆ หนึ่ง มาตลอดหนึ่งปี :(
...ต่างจากดอกทานตะวันตรงไหน?
ไปเปิดเจอมา...
"...
ตำนานดอกทานตะวันในเทพนิยายกรีกมีนางไม้ชื่อ Clytie ที่หลงรักเทพอพอลโล ซึ่งเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ ได้เฝ้ามองอพอลโลทุกวันจนผมสีทองของเธอกลายเป็นกลีบดอกสีเหลืองและใบหน้ากลายเป็นดอกทานตะวัน ชื่อ Helianthus มาจากคำว่า helios ที่แปลว่าดวงอาทิตย์ กับคำว่า anthos ที่แปลว่า ดอกไม้
... "
มันจะมีใคร ที่เฝ้ามองใครซักคนจนตัวเองกลายร่างเป็นดอกไม้จริงๆ หรอ?
คนคิด เค้าก็เข้าใจคิดนะ... จินตนาการ นี่สุดยอดไปเลยจริงๆ
แค่ รอ ใครคนหนึ่งมาตลอดหนึ่งปี ก็คิดว่ามันเยอะมากพอแล้วนะ
มากพอที่จะเปลี่ยนใจแล้วไปมองหาใครใหม่ได้แล้ว
แต่แปลกที่มันไม่อยากจะเปลี่ยนใจ ไม่อยากจะมองหาใครใหม่
ไปเจอคนๆ หนึ่งในไดอารี่ออนไลน์...
เค้ารอคนที่เค้ารักมาตลอด 4 ปี และมีทีท่าว่าจะรอต่อไป
...ช่างเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน นานพอที่ถ้าเปลี่ยนใจ คงแต่งงานกับคนอื่นไปได้แล้ว
อ่านเรื่องของเค้าแล้วเราก็รู้สึกว่า... ระยะเวลา 1 ปีของเรา ช่างน้อยนิดเหลือเกิน
แต่เราก็คงไม่คิดจะรอไปตลอดชีวิตหรอกนะ
"รอ" .. คำสั้นๆ แต่เจ็บยาวๆ :(

คิดจะจบก็จบดื้อๆ
ตอบลบ